ลังจากที่เลี้ยวขวา(ถ้ามาจากแม่ริม) หรือตรงไป (ถ้ามาจากหางดง) เพื่อมุ่งตรง มายังเมืองสะเมิง ได้ชั่วอึดใจ หลายๆคนคงอดไม่ได้ ที่จะต้องชะลอความเร็วรถลง เพื่อขอที่จะได้ชม ทิวทัศน์ สวนลิ้นจี่ที่ เรียงรายกันไปสุดลูกลูกตานี้ โดยมีบ้านไม้ทรงไทยหลังใหญ่ ตั้งเป็นฉากอยู่ด้านหลัง และคาดว่าหลายๆคนคงจะมีคำถามอยู่ในใจว่า ใครหน๊ออ ที่ได้เป็นเจ้าของสวนสวย แห่งนี้ และคงจะอดจินตนาการต่อไปไม่ได้ว่า สักวันหนึ่ง เราเองคงจะมีสวนสวยๆแบบนี้กับเค้าบ้าง … ^^

สวนนิตยา

ป้ายชื่อสวน ตั้งเด่นเป็นสง่า สอดรับกับเสาประตูสีหวาน สีชมพูแบบตั้งใจ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า สวนนี้เจ้าของสวนคงชื่อนิตยา แน่ๆ และคงจะเป็นเจ้าของสวนที่ใจดี (ตามจินตนาการ ตามสีเสาประตูรั้วมันบอก ) จากประตูรั้ว เข้าไปมีโรงจอดรถ เล็กๆ อยู่ด้านหลัง และมีรถกอล์ฟคันเล็ก จอดรออยู่

ภายในโรงรถ มีถุงลูกพลับ แบ่งใส่ถุงแบบถุงเล็กถุงใหญ่ วางเรียงรายเต็มไปหมด ดูแล้วอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปสอบถาม รายละเอียด ของเจ้าสิ่งที่อยู่ในถุงนั่น

“อ่อ ถุงเล็ก 2 โล ถุงใหญ่ 5 โล กิโลฯละ 25 ถ้าเอาเยอะเดี๋ยวป้าลดให้”  ยังไม่ทันที่จะได้ถามไถ่ป้าแกบอก รายละเอียดเสร็จสรรพ

ยังไม่ทันจะคุยอะไรมากไปกว่านี้ ป้านิตยาก็ปอกลูกพลับ ให้ชิม พร้อมเล่าที่มาที่ไปของลูกพลับให้ฟังได้เป็นเรื่องเป็นราว

จับใจความได้คร่าวๆว่า แต่ก่อนลูกพลับพวกนี้ ไม่ได้มาตั้งขายที่หน้าสวน เพราะลุงแกเอาลูกพลับทั้งหมดนี้ ไปส่งเองถึงกรุงเทพฯ แต่มาวันนี้ คู่ชีวิตของป้านิตยา เพิ่งจากไปด้วยโรคมะเร็งร้าย  หน้าที่การหาตลาด ป้าแกเลยต้องรับช่วงต่อ

มาถึงวันนี้ ความสุขของป้าแก คงไม่ได้อยู่ที่การขายลูกพลับได้ หรือไม่ได้ แต่ความสุขจากการได้ทำ ในสิ่งที่ตัวเองรักเป็นเรื่องที่ป้าแกเห็นว่าสำคัญสุด ป้าแกบอกว่า ความสุขที่ได้ทำกับความสุขที่ได้รับ มันเป็นเหมือนแรงกำลังอย่างหนึ่ง ที่ทำให้แกสนุกและมีแรงที่จะอยู่ทำสวนนิตยา ให้อยู่คู่ไปกับเมืองสะเมิงให้นานแสนนาน ป้าแกว่างั้น ^^