ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา การกลับมาสร้างงานให้ตัวเองอยู่ให้ได้ด้วยลำแข้ง และอยู่พร้อมเพื่อที่จะส่งต่อรากเหง้าของตัวเองไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง เราสองคนถือว่าเป็นงานที่น่าท้าทายมากสำหรับเราเป็นอย่างยิ่ง ตลอดเส้นทางที่เราเดิน เราเดินมาด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าเราสามารถสร้างงานให้เราอยู่ในชุมชนด้วยตัวเองได้ และอยู่ได้แบบเหลือเก็บ แน่นอนว่าสิ่งที่เราทำน่าจะเป็นการจุดประกายส่งต่อความเชื่อให้คนที่อยากจะกลับบ้านแบบเราได้เอะใจในสิ่งที่เราทำ หรือหันหน้ามุ่งกลับบ้าน กลับมาร่วมกันกับเรา ช่วยกันขับเคลื่อนให้สิ่งที่เราคิดให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น เรายิ่งยินดี
เราไม่ได้แค่ทำไอศครีมขาย ปลูกผักขาย เพื่อเลี้ยงชีพให้อยู่ได้ในชุมชนเพียงอย่างเดียว แต่เรามีความเชื่อว่างานที่เราทำคือการสร้างฐานรากที่สำคัญให้กับคนรุ่นต่อไป สร้างงาน สร้างรายได้ อยู่บนพื้นฐานความเป็นอยู่ที่ตัวเองพึงมีพึงได้ โดยไม่ทิ้งถิ่นเดิม ต่อยอดสิ่งที่คนรุ่นก่อนสั่งสมไว้ให้ ณ ตอนนี้เราสองคนพยายามและตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้ในเชิงรูปธรรม ซึ่งแน่นอนว่าเราเริ่มมาแล้วเกือบ 5 ปีเต็ม (ปี 2557) และตอนนี้เรากำลังเดินหน้าต่อ
เกิดขึ้นมาได้ ส่วนหนึ่งมาจากงานที่เราพยายามขับเคลื่อนชุมชนให้เป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ ชุมชนอาหารปลอดภัย ด้วยความตั้งใจอยากให้ที่นี่เป็นชุมชนคนรักสุขภาพ เราจึงทำหน้าร้านเล็กๆขึ้นมา โดยหวังเพียงว่าร้านเล็กๆแห่งนี้จะเป็นสถานที่เอาไว้พบปะสำหรับคนต้องการอาหารปลอดภัย คนทำอินทรีย์ คนอยากทานอาหารอร่อยๆที่ปลอดภัย ได้มาพบปะเจอะเจอกัน หรือได้ใช้พื้นที่ในร้านเป็นพื้นที่พบปะกันพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
ฉนั้นร้านเราจึงนำร่องด้วยการคัดสรรรวัตถุดิบที่มาจากผลผลิตที่ไร่เราปลูก มาจากในไร่อินทรีย์ของเรา (At Samoeng Organic Farm) และของคนในชุมชนเรา มาใช้ในร้านเป็นหลัก แม้แต่ส่วนผสมหลักไอศครีม จึงมาจากในชุมชนทั้งหมด มาที่นี่เพื่อนๆจะได้ลิ้มลองไอศครีมที่มีรสชาติพิเศษและบางรสชาติ อาจะเป็นรสชาติที่ไม่คุ้นเคยแต่รับประกันว่าอร่อยแน่นอน ซึ่งไอศครีมทุกๆรสชาติจะมีให้ชิมตามฤดูกาลเป็นหลัก เพราะสิ่งสำคัญที่เราเน้นคือ ความสดใหม่ของวัตถุดิบของส่วนผสมเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น เคล (คะน้าใบหยิก) เสาวรส สตรอเบอร์รี่ พลับ มัลเบอร์รี่ มะพร้าว อโวคาโด้ เผือก หญ้าหวาน ฯลฯ
เราสนุกกับสิ่งที่เราทำ เพราะเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร และเดินไปทางไหน ถ้ามาถึงสะเมิงแล้ว แล้วคุณได้อ่านข้อความนี้แสดงว่าคุณมาเจอเราแล้ว คราวหน้าแวะมาหาเราอีกนะครับ
ไอติม cafe’ at Samoeng
เราเลือกใช้วัตถุดิบในพื้นถิ่นเป็นวัตถุดิบหลัก เป็นส่วนผสมในการทำไอศครีมรสชาติพิเศษ ที่ใครที่มีโอกาสได้ลองชิม รับรองว่าจะทึ่งในรสชาติที่ไม่คุ้นเคยแต่แสนอร่อย ผักผลผลไม้ในไร่อินทรีย์ของเรา (At Samoeng Organic Farm)ในชุมชนเรานำเอามาแปรรูปเป็นไอศครีมทั้งหมด ฉนั้นรับประทานได้อย่างมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยและช่วยส่งเสริมงานในชุมชนอย่างแน่นอน
หลากหลายรสชาติไอศครีมที่เรารังสรรค์ให้เพื่อนๆได้มีโอกาสได้ชิมลิ้มรสกัน
อโวคาโด้ สะเมิงถือว่าเป็นแหล่งปลูกที่เยอะมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย ถ้าเอามากินกับไอศครีมรสกะทิ ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันมากๆๆ อร่อยจริงๆต้องลอง
หากมากับเพื่อนๆเดอะแก็งค์สั่งเป็นชุด รับรองว่าทานกับเพื่อนได้สนุกสนานและแสนคุ้ม สามารเลือกรสชาติได้สนุก แบ่งกันชิมแบ่งกันกิน สนุกสนานไปอีกแบบ
รสชาติไอศครีมหลากหลาย มีให้เลือกลิ้มลองมากมาย เน้นวัตถุดิบตามฤดูกาลเป็นหลัก
#เคล #มัลเบอร์รี่ #สตรอเบอร์รี่ #เสาวรส #กะทิ #อโวคาโด้ #เผือก #พลับ
ชุดนี้ เป็น Signature ร้านกันเลยทีเดียวเพราะถ้วยวาฟเฟิล เราใช้ข้าวเกรียบว่าวมาทำถ้วยไอศครีม รับประทานได้อร่อยเข้ากันมากๆ เลือกได้ 3 รสชาติ ราคาเพียง 49บาทเท่านั้น
ชุดใหญ่ เพียงชุดละ 69บาท เลือกได้ 7 รสชาติ กินกันจุใจไปเลย
ชุดนี้เลือกได้ทั้งหมด 5 รสชาติจุใจ ชอบรสชาติไหน สามารถสั่งได้เลยเพียง 49บาทเท่านั้น
แบบโคนอร่อยๆ หรือจะทานน้อยๆก็เลือกได้ เพียง 25บาทเท่านั้น เลือกได้ 2 รสชาติ
ก็ต้องไปหาที่ท่องเที่ยวในสะเมิงกัน
EP04 “ผายองบ้านฉัน” นอนนับดาว จิบกาแฟ ท่องเที่ยววิถีลีซู
ลุ่มชาติพันธุ์ลีซู (Lisu) เป็นอีกหนึ่งชาติพันธุ์ที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ประเพณีเป็นของตนเอง และยังคงสืบมาจนถึงปัจจุบันและ ลีซูยังเป็นอีกหนึ่งชาติพันธุ์ ที่มีความโดดเด่นเรื่องเครื่องแต่งกายที่สวยงาม เป็นเอกลักณ์เฉพาะ
ประเพณีประจำปีของลีซู จะเป็นประเพณีกินวอ “กุแซวะ” (ปีใหม่) ถือเป็นประเพณีเฉลิมฉลองปีใหม่ของคนที่นี่ ซึ่งจะจัดกันในช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม ของทุกๆปี ซึ่งในแต่ละปีจะไม่ตรงกัน จะถือวันเวลาตามกฤษ์ยามที่แต่ละหมู่บ้านจะหาได้ ซึ่งไฮไลท์สำคัญของประเพณีกินวอ ก็คือหนุ่มสาวจะแต่งตัวสวยงามตามประเพณี แล้วมาพบปะหากันในประเพณีนี้ ซึ่งจะมีกิจกรรมร่วมกันคือ การเต้นจะคึ มีดนตรีการละเล่นต่างๆ เช่นเป่าแคน ดีดซึง เป่าขลุ่ย เป็นที่สนุกสนามมีความสุขกัน
ซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ลีซู จะมีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของชาติพันธุ์นี้คือการสร้างความบันเทิงและความร่าเริงออกมาทางการเต้นรำ ร้องเพลง มีการการร้องเพลงตอบโต้ที่มีลักษณะเฉพาะ คือทั้งฝ่ายชายและหญิงจะร้องเพลงตอบโต้กันไปมา แต่ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีความสามารถแต่งเพลงและโต้ตอบในสถานการณ์ต่างๆได้ บทเพลงที่ร้องโต้ตอบไปมาจะไม่มีเนื้อหาตายตัว แต่จะขึ้นอยู่กับทั้งสถานการณ์ตอนนั้นว่าทั้งสองฝ่ายตอบโต้ส่งต่อกันไปมาอย่างไร อาจจะคล้ายกับการโต้วาที แต่เป็นการโต้วาทีด้วยการร้องเพลง
ในอำเภอสะเมิง กลุ่มชาติพันธุ์ลีซู จะมีอยู่ 2 หมู่บ้านคือ ที่บ้านปางขุม หมู่ที่ 1 ตำบลยั้งเมิน และบ้านผายองหมู่ที่ 11 ตำบลแม่สาบ เรายังสามารถที่จะไปชมท่องเที่ยววิถีชีวิตลีซูได้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ในแต่ละปี
เมื่อนึกถึงบ้านผายอง หลายๆคนคงนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวคือผายอง สิ่งมหัศจรรย์หินตั้งได้ มีลักษณะเป็นก้อนหินสองก้อน วางซ้อนกันเป็นรอยต่อทำมุม 45 องศา ซึ่งชาวบ้านมีตำนานเล่ากันว่า พระพุทธเจ้าได้นำหินมาวางซ้อนกันไว้และมีเทวดา ได้นำด้ายมาร้อยบนหินให้มันตั้งได้จนถึงทุกวันนี้ ผายองยังถือเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านลีซูผายองนับถือ มีเรื่องเล่ากันว่าในสมัยก่อน ผู้เฒ่าผู้แก่ทดลองเอาด้ายขึงตัดรอยต่อหินที่วางต่อกันสองก้อนนั้น ด้ายก็สามารถผ่านทะลุไปได้อย่างอัศจรรย์ และทุกปีชาวบ้านลีซู ประชาชนชาวบ้านโดยทั่วไปจะขึ้นไป สรงน้ำทำพิธีในวันพืชมงคลเป็นประจำทุกๆปี อาจจะถือได้ว่าเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งของบรรพบุรุษในการสร้างเรื่องราวเรื่องเล่า เพื่อให้ชาวบ้านช่วยกันรักษาต้นน้ำลำธาร โดยใช้ผายองเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้ชาวบ้านรักและหวงแหนพื้นที่ป่าต้นน้ำนี้เอาไว้
นอกจากนี้บริเวณรอบๆผายอง ยังเป็นสวนหินที่มีลักษณะเป็นก้อนหินวางซ้อนกันคล้ายกับผายองอีกหลายแห่ง พื้นที่โดยรอบเป็นป่าสนเขา สวยงาม บรรยากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งนับว่าเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เมื่อใครมาเยือนบ้านผายองก็จะหลงใหลในบรรยากาศของที่นี่แทบทุกราย
ผายองตั้งอยู่ที่บ้านผายองหมู่ที่ 11 ตำบลแม่สาบ เป็นพื้นที่สูง 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งชาวบ้านที่นี่นอกจากจะปลูกพืชผักเมืองหนาวแล้ว ยังปลูกกาแฟอีกด้วย
กาแฟผายอง นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดที่เริ่มเป็นที่สนใจของชาวบ้าน มีคนทำกาแฟหลายรายที่มารับซื้อเมล็ดกาแฟสุก(เชอร์รี่กาแฟ) ถึงที่หรือชาวบ้านบางรายก็จะผลิตกาแฟกะลา เพื่อส่งขายเพื่อนำไปทำกาแฟสารต่อไป อย่างไรก็ดีที่นี่ยังมีคนรุ่นใหม่ที่หันมาพัฒนากาแฟบ้านผายอง ภายใต้วิสาหกิจชุมชนกาแฟบ้านผายอง เพื่อหวังว่าในอนาคตจะทำให้กาแฟของที่นี่มีชื่อเสียง และเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ ที่สามารถปลูกกาแฟให้คนอยู่กับป่าสืบไป
อะต๊ะเบฟาร์ม (อภิสิทธิ์ สินย่าง) หยะจ๊ะเผะการ์เด้นท์ (อดุลวิทย์ สินย่าง) สองพี่น้องตระกูลสินย่าง สองพี่น้องคนรุ่นใหม่กลุ่มแรกๆที่หัน จากวิถีคนเมืองกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่บ้านผายอง บ้านเกิดของตนเอง อดุลวิทย์หันหลังให้เกษตรเคมี หันหน้ามาเริ่มทำเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง ควบคู่ไปพร้อมๆกับการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ช่วยกันทำลานที่พักกางเต้นท์ สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้มาตั้งเต้นท์ แคมป์ปิ้งไปพร้อมๆกันกับการปลูกผักลงแปลงปลูกเกษตรอินทรีย์ โดยมีพี่ชายอภิทธิ์ มาช่วยกันดูเรื่องการท่องเที่ยวไปพร้อมๆกัน
พื้นที่การเกษตรสองฟาร์มนี้ มีพื้นที่รวมกันกว่า 10 ไร่ ได้เริ่มต้นทำเกษตรอินทรีย์อย่างง่ายๆคือ หาความรู้การทำเกษตอินทรีย์ก่อนเป็นอันดับแรก เรียนรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะมีผลผลิต กับทางกลุ่มสะเมิงออร์แกนิค ว่าทำอย่างไร แล้วลงมือทำ โดยเริ่มจากการปลูกพืชผักฤดูตามฤดูกาล ผลผลิตที่ได้ก็นำไปขายร่วมกันกับกลุ่ม มีรายได้จากการทำเกษตรอินทรีย์ จนปัจจุบันสามารถอยู่ได้ในพื้นที่ของตนเองด้วยวิถีเกษตรอินทรีย์ ทั้งสองคนบอกว่าแค่นี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดแล้ว
ส่วนความคาดหวังในอนาคตนั้น หวังเผื่อไว้ว่าการทำการเกษตรอินทรีย์ จะสามารถยกระดับความเป็นอยู่ให้ดียิ่งๆขึ้นไปได้ และคาดหวังว่าจะเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้านผายองได้เห็นว่า หากหันมาทำเกษตรอินทรีย์แล้ว สามารถยกระดับความเป็นอยู่ได้ดีขึ้นได้อย่างไร โดยเน้นทำให้ดู ให้เห็นเป็นตัวอย่างก่อนเป็นอันดับแรก
เมื่องานในแปลงเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ไอเดียการท่องเที่ยวเพื่อต่อยอดในสิ่งที่ตัวเองมีก็เริ่มเกิด สองพี่น้องเริ่มใช้พื้นที่ในแปลงของตัวเองเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาตั้งเตนท์ ตั้งแคมป์ปิ้ง โดยคิดค่าบริการเป็นรายคน หากใครต้องการอยากที่จะท่องเที่ยวชนเผ่าวิถีลีซู หรืออยากให้พาไปชมสถานที่สำคัญๆในหมู่บ้านผายอง เช่น หินผายอง ป่าสนเขา ชมวิวทิวทัศน์ ท่องเที่ยวชมการดริปกาแฟ ชมวิถีชีวิตของพี่น้องชาติพันธุ์ลีซู ก็มีบริการในราคาพิเศษ
จุดเริ่มต้นเล็กๆนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุด อีกหมุดหมายสำคัญของการเริ่มต้นของเขาทั้งสองและของชาวบ้านผายอง จะสำเร็จตามที่ตั้งใจตั้งเป้าหมายไว้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่รอเวลา เป็นเครื่องพิสูจน์ ขอเป็นแรงใจช่วยให้สำเร็จลุล่วงดังที่ตั้งเป้าหมายไว้ครับผม
F anpage
หยะเจ๊ผะการ์เด้น เป็นเพจที่คนรุ่นใหม่ของคนบ้านผายอง ร่วมกันช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวิถีลีซู ให้บริการเรื่องที่พัก ลานกางเต้นท์ และพาเที่ยวชมผายอง ชมวิถีลีซูว่ามีวัฒนธรรมความเป็นอยู่อย่างไร สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ผ่านเพจนี้
จุดชมทิวทัศน์ป่าสะเมิง (อุทยานแห่งชาติขุนขาน)
EP01 ” เ ชี ย ง ใ ห ม่ – ส ะ เ มิ ง – บ่ อ แ ก้ ว – กั ล ย า ณิ วั ฒ น า วันเดย์ทริป ทริปจบแต่คนไม่เคยจบ (ที่จะรักสะเมิง) “
ทุ่งดอกเก๊กฮวยบาน ที่บ้านอมลอง สะเมิง
พาชมทะเลหมอก บนพระธาตุดอยนก
ระธาตุดอยนก ถือได้ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิของบ้านแม่สาบ อำเภอสะเมิง เป็นศาสนสถานสำหรับให้ชาวบ้านได้มาสัการะบูชา และกราบไหว้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเป็นศิริมงคลแก่ชาวบ้าน
จากทุ่งข้าวสาลี กลายมาเป็นท้องทุ่งดอกปอเทือง
วงนี้ ช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว สะเมิงนอกจากจะให้บรรยากาศที่เขียวขจี ชุ่มชื้นไปด้วยไอฝนปนไอหมอกแล้ว ที่นี่ยังมีท้องทุ่งดอกปอเทือง ที่เหลืองอร่ามสุดลูกหูลูกตา ไว้คอยต้อนรับเพื่อนๆนักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมกันอีกด้วย